โฉมที่ 4 (ค.ศ. 2008 - 2010) ของ ดอดจ์ ไวเปอร์

ดอดจ์ ไวเปอร์ โฉมที่ 4

ดอดจ์ ไวเปอร์ โฉมที่ 4 ยังใช้ชื่อว่า SRT-10 อยู่ตามเดิม ตัวถังภายนอกคล้ายของเดิม แต่เครื่องยนต์เปลี่ยนจาก 8300 ซีซี เป็น 8400 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 592 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร ที่ 5,600 รอบต่อนาที สมรรถนะอื่นๆ ของไวเปอร์โฉมที่ 4 เป็นดังนี้

  • เร่งความเร็ว 0-97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง : 3.4 วินาที
  • เร่งความเร็ว 0-161 กิโลเมตรต่อชั่วโมง : 7.6 วินาที
  • ควอเตอร์ไมล์ที่ดีที่สุด : 10.92 วินาที[6]
  • ความเร็วสูงสุดในควอเตอร์ไมล์ : 206 กม./ช.ม.
  • ความเร็วสูงสุด : 317 กม./ช.ม. ในรถเปิดประทุน และ 325 กม./ช.ม. ในคูเป้
  • ความเร็วสูงสุดขณะวิ่งซิกแซก : 119 กม./ช.ม.
  • แรงเหวี่ยงสูงสุดขณะหักเลี้ยว : 1.06 จี

ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 มิสเตอร์ราฟ กิลส์ ประธานบริหาร (ซีอีโอ) ของค่ายรถยนต์ดอดจ์ ออกมาประกาศว่า ในฤดูร้อน ค.ศ. 2010 ดอดจ์จะเลิกผลิตรถรุ่นไวเปอร์ โดยกำลังพัฒนารถแข่งรุ่นใหม่เพื่อมากแทนไวเปอร์ใน ค.ศ. 2012 ส่วนรายละเอียดของรถรุ่นใหม่ยังไม่ถูกเปิดเผยมากนัก มีการคาดการณ์ว่า รุ่นใหม่ที่จะมาแทน อาจจะยังใช้ชื่อไวเปอร์ตามเดิมก็เป็นได้

และในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ดอดจ์ได้เริ่มรับการจอง SRT-10 AXZ ไวเปอร์ลิมิเต็ดรุ่นสุดท้าย มีผลิต 32 คัน

แหล่งที่มา

WikiPedia: ดอดจ์ ไวเปอร์ http://www.autoblog.com/2009/03/25/one-fast-snake-... http://www.autoblog.com/2012/04/04/2013-srt-viper-... http://www.dodge.com/viper/ http://www.edmunds.com/insideline/do/Features/arti... http://blogs.insideline.com/straightline/2010/06/m... http://blogs.insideline.com/straightline/2010/07/d... http://jalopnik.com/5899094/2013-srt-viper-the-sna... http://www.motortrend.com/roadtests/112_9705_1997_... http://www.motortrend.com/womt/112_0306_spdtest/in... http://web.archive.org/web/20080913235433/http://w...